สารคดี ต้นกำเนิดสิ่งมีชีวิต
ชีวิตบนโลกเริ่มต้นขึ้นมานานแล้ว แต่ว่ามันเริ่มได้อย่างไร แล้วทำไมต้องเป็นที่โลก บางคนเชื่อว่ามาจากอุตกาบาต บางคนบอกว่ามันเริ่มจากบึงร้อนๆในโลกยุคแรก ปี 1953 นักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งทำให้โลกสะเทือน เมือเขาเสนอคำตอบที่ว่า การจากซุปดึกดำบรรพ์ แต่ทฤษฎีต่างๆนั้นมันจะถูกหรือเปล่า?
สารคดี ต้นกำเนิดสิ่งมีชีวิต
ความคิดเห็น เกี่ยวกับ สารคดี ต้นกำเนิดสิ่งมีชีวิต
ผมว่า มันมาจากดาวต่างๆ ดาวน้ำแข็งชนโลก แร่ธาตุต่างมาจากหลายที่มาร่วมตัวกัน นอกโลกมีดาวไม่มีที่สิ้นสุด ล่าสุดนาซ่าเผยว่ามีอีกจักรวาลที่2 มีดวงอาทิตย์อีกดวงมีดวงจันทร์อีกดวง และก็ค้นพบดาวที่ติดอยู่กับโลก มันอยู่หน้าประตูบ้านเรา โดยที่เราไม่รู้มาก่อน
พระเจ้าไม่ได้สร้างคน แต่คนสร้างพระเจ้า
ยุกกาลิเลโอ พระเจ้าบอกว่าโลกแบน ใครค้านจับเข้าคุกซะอีก พอเขาพิสูจน์ได้ว่ากลมและโลกเกิดมาอย่างไร พวกลัทธิพระเจ้าก็แถไปว่า พระเจ้าทำให้เกิดบิ๊กแบงอีก เอาที่ท่านสบายใจเลย
มีโปรตรอน นิวตรอน อิเล็กตรอน ตอนที่ยังไม่ค้นพบอิเล็กตรอน ก็บอกว่ามีสองอนุภาคที่เล็กสุด ขนาดโลกกลมยังเพิ่งรู้มาไม่กี้ศตวรรษ แล้วนับประสาอะไรกับสิ่งที่ผ่านมาแล้วนับพันล้านปี มโนทั้งนั้น แล้วก็เอาความรู้ทางยูทุป ไปโชว์เก่งอีก ก็แค่สื่อให้จินตนาการตามไป
ทุกอย่างในโลกนี้ไม่มีคำว่าบังเอิญครับ อาจารย์คิดดูดีๆนะครับ ถ้าเกิดว่า โทรศัพท์ บ้านตึก รถย์ ทุกอย่างเกิดขึ้นมาเองโดยบังเอิญไม่ได้ครับ ต้องมีคนสร้างและวางระบบระเบียบไว้ ที่ว่าการระเบิด Big band น่ะผมว่าถ้าแรงระเบิดแรงไปมันก็จะกระจัดกระจายไปไกลจนมาเป็นระบบไม่ได้ แต่ถ้าแรงระเบิดน้อยเกินไปมันก็จะกลับมาเป็นดาวเคราะห์เหมือนเิดม แต่ว่ามันระเบิดเพียงครั้งเดียวมันกลายเป็นโลก ดาว พระอาทิตย์ ผมว่ามันคงเป็นไปได้ยากนะ ถ้าเราสมมุตว่า เราเอาระบเบิดจุดแล้วโยนไปในกองดินกองทรายคุณคิดว่ามันจะบังเอิญกลายเป็นโลกดาวเคารย์ได้ไหม ผมคงเป็นไปได้ยากนะ ถ้าเิดขึ้นมาเองโดยบังเอิญมันคงไม่มีระบบระเบียบนะ แต่มีผู้สร้างและจัดระเบียบไว้อย่างดี ใครล่ะส้รางสรรพสิ่ง ??? ” God ” พระเจ้า
เป็นแค่ทฤษฎีไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริงแต่ผมว่ามันมีเหตุผลกว่าที่จะบอกว่ามีผู้สร้างขึ้นชึ่งมันขัดกัน ผมเลยหนักด้านทางวิทยาศาสตร์มากกว่า
ไม่ว่าจะเป็นในคำภีร์ หรือ ใน วิทยาศาสตร์ ก็เป็นได้เพียงทฤษฎีๆหนึ่งเท่านั้น
เพราะไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหน ก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ วิทยาศาสตร์ ก็ได้เพียงการทดลองและวิเคราะห์ ศาสนาก็เป็นเหมือนการบอกเล่า แก้ไข ตามการเวลา
ความจริงที่สุดคือ ความว่างเปล่า เกิดก่อนทุกสิ่งในจักรวาลนี้ ความว่างเปล่าคือไร้สะสารใดๆไม่มึดไม่สว่าง
ทั้งหมดยังเป็นเพียงทฤษฏีครับแต่ก็มีความเป็นเหตุเป็นผลมากกว่าความเชื่อเรื่องพระเจ้าสร้างโลกถึงได้มีการยอมรับ แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อเทคโนโลยีของมนุษย์ก้าวหน้ามากกว่านี้บางทีทฤษฏีเหล่านี้ก็อาจจะไม่จริงก็ได้
วิวัฒนาการคือการปรุงแต่ง(สังขาร) จากความพิใจไม่พอใจ ถ้าเราเป็นแค่สิ่งมีชีวิตธรรมดาเราก็ควรจะเป็นแค่สัตว์เซลล์เดียวอยู่อย่างนั้น เพราะความไม่พอเราถึงปรุงแต่งให้มีอวัยวะทั้งหลาย ลองเทียบกับคอมพิวเตอร์เกิดขึ้นมาแล้วก็พังไป มันวิวัฒตัวเองไม่ได้ ถ้าจะให้วิวัฒตัวเองได้เราก็ต้องเขียนโปรแกรมวิวัฒ(ความคิดปรุงแต่ง)ใส่เข้าไป มีโปรแกรมความพอใจไม่พอใจเป็นตัวตรวจสอบว่าการปรุงแต่งนั้นดีหรือไม่(ควรใช้ไม่ควรใช้) ถ้าพิจารณาจากที่กล่ามมาให้ดีโปรแกรมที่ว่านี้ต้องอาศัยความถี่ของสัญญาณนาฬิกาซึ่งก็เทียบได้กับการเกิดดับของจิต และดั่งคำว่านามรูปัง ทั้งนาม(Software)และรูป(Hardware) ต่่างต้องอาศัยกันและกันจึงจะมีชีวิต(มีการทำงานประมวลผล) ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้
ใครเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เคยทดลองกับสัตว์ทดลองหรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เช่น มด แมลง หรือ แบคทีเรีย ที่เราไปกำหนดกฏเกณฑ์การทดลองพวกมัน บางทีอาจมีใครที่กำลังเล่นการทดลอง ใส่พายุ ใส่น้ำท่วม ปรากฏการณ์ต่างๆ จากเอกภพ เหนือจักรวาลอันกว้างใหญ่อยู่ก็ได้ แล้วกำลังบันทึกผลการทดลองอย่างสนุกสนาน
ผมคิดว่านะ ก่อนที่จะบิกเเบงระเบิด
อาจจะมีสิ่งมีชีวิตอยู่ สิ่งมีชีวิตนั้น ไม่มีทรัพยากรใช้
เลยทำอะไรบางอย่าง จนเกิดบิกเเบง ขึ้นเพื่อรีเช็ททรัพยากร
การที่เอาระเบิดไปขว้างในกองทรายไม่สามารถสร้างดาวเคราะได้หรอกน่ะครับ เพราะว่านายยังอยุ่ภายใต้แรงดึงดูดอยู่ และมวลของวัตถถุแค่นั้นไม่สามารถสร้างดาวได้หรอกน่ะครับ การเย็นตัวของวัตถุ และกว่ามันจะจับตัวกันเป็นแก่นสาร ใช้เวลลาหลายล้านปีน่ะครับ
แล้วใครบอกว่าจักรวาลเป็นระเบียบครับ กาแลคซี่ กระจายกันออกไป ไกลกันบ้าง ใกล้ กัน บ้าง คุณเคยเห็นดาวเรียงตัวกันเป็นระเบียบ เหมือนบนธงชาติ อเมริกา หรอครับ
เคยได้ยินมาว่าจักรวาลกำลังขยายตัว ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ แล้วไอ้ที่มันกำลังขยายออกไปมันคืออะไร ในส่วน ส่วนที่จักรวาลกำลังขยายออกนั้นมันคืออะไร หรือว่าเปนที่ว่างป่าว(โลกสีขาว) หรือเป็นที่ๆไร้กาลเวลา ถ้ามีอยู่จริงในส่วนนั้นจะเรียกว่าอะไร
ปล.ผมว่ายังมีสิ่งที่ใหญ่กว่าจักเยอะมาก แค่มันไกลเกินความสามารถของมนุษย์ไปเท่านั้นเอง เลยไม่รู้อาจมีสิ่งที่ใหญ่กว่า
ปล2.จักรวาลอาจจะเล็กเป็นเม็ดถั่วในที่ใดที่หนึ่งก็อาจเป็นไปได้
ผมว่าเป็นไปได้ยากมากหรือเป็นไปไม่ได้เลยที่สิ่งมีชีวิตจะเกิดจากวัตถุธาตุต่างๆได้ครับ ทฤษฎีต่างๆที่มีในปัจจุบันก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้เลยว่าทฤษฎีนั้นๆเป็นจริงหรือไม่
หากต้องการจะย้อนเวลาต้องมีความเร็วเหนือแสงและความเร็วเหนือแสงที่ว่าจะต้องไม่มี่ข้อจำกัดหรือนับไม่ถ้วน. อัลเบิร์ตไอสไตบอกว่าถ้าเราเคลื่อนที่ด้วยความเร็วแสงยานจะหดสั้นและระเบิดสลายตัวในที่สุดและเวลาก็จะเป็นศูน แต่สมมุติว่าถ้าร่างกายของเรายังไม่แตกทำลายเราก็จะวูบไปความคิดต่างๆก็จะหยุดทั้งหมดเหมือนกับว่าเราหายตัวได้หรือเราเดินทางข้ามเวลานั้นเอง
แต่ผมคิดว่ากายหยาบเดินดินอย่างมนุษย์เราทำไม่ได้แน่นอนที่จะเดินทางความเร็วเหนือแสงหรือเท่ากับแสงการเข้าไปรู้เรื่องจักรวาลของมนุษย์เกิดจากความสงสัยไช้ไหมความสงสัยออกมาจากจิตไต้สำนึกไช้ไหมถึงได้บังเกิดทฤษฎีและเทคโนโลยีของมนุษย์เพราะฉะนั้นการเข้าไปรู้เกี่ยวกับจักรวาลของมนุ์ษต้องออกมาจากภาวะภายในคือจิตไต้สำนึกนั้นเองการฝึกสมาธิเข้าไปถึงภาวะรู้แจ้งจึงเป็นแม่บทของวิทยาศาสตร์และพุทธองค์ก็เป็นศาสดาของนักวิทยาศาสตร์ทั้งปวงด้วยและท้าพิสูจน์ได้หากอยากรู้รอง
ทำสมาธิจนถึงขั้นอภินยาและจะไขข้อสงสัยทั้งมวล. เพราะจิตละเอียดกว่าอนุภาคทั้งมวล. และจิตมีความเร็วเหนือแสงทั้งมวล
ถ้าหรักฐานไม่มัดอย่างจังๆมนุษก็ไม่เชื่ออะไรง่ายๆเพราะความยึดติดกับตัวเองและสิ่งที่ตัวเองรู้มากล่าวคือความยึดมั้นถือมั่นนั้นเองมนุษย์จึงติดอยู่ในวัฒตะและโลกจึงเรียนรู้อย่างไม่สิ้นสุดการจะเข้าไปสิ่งต่างภายในต้องวางทั้งหมดจึงจะเชื่อมต่อกับมิติอื่นโลกอื่นและจักรวาลอื่นได้หรือแม้กระทั่งอารยธรรมอันไกลโพ้นนอกจักรวาล
ทุกคนคิดไม่เหมือนกัน ้เป็นสีสันของธรรมชาติ การหาสาเหตุแบบปลายเปิดจะหาข้อยุติไม่ได้
เช่นพระเจ้าสร้างโลก แล้วใครสร้างพระเจ้า พ่อพระเจ้าสร้าง ใครสร้างพ่อพระเจ้า ปู่พระเจ้า ใครสร้างปู่พระ้จ้า ทวดพระเจ้า ไล่ให้ตายก็ก็ไม่จน หาจุดกำเนิดไม่ได้ ข้อยุติคืิอต้องหาสาเหตุแบบปลายปิด คือไมต้องหาจุดกำเนิด ให้เริ่มตรงไหนก่อนก็ได้ ต่างก็เป็นสาเหตุได้ทั้งนั้นวนเวียนกันเป็นวัฏจัดร เช่นเกิดเป็นเหตุของชรา ชราเป็นเหตุของเจ็บป่วย ป่วยเป็นเหตุของความตาย
ความตายเป็นเหตุของการเกิด อย่างนี้จะไล่จน
เพราะตาเห็นจึงเชื่อในสิ่งที่เห็นเพราะเกิดมาก็เห็นเลยหาวิธีเปรียบเทียบว่าแต่ก่อนเกิดอะไรทำไมถึงเป็นและได้เห็นแทนที่จะเรียนรู้เฉพาะสิ่งที่เห็นดันไปค้นสิ่งที่ไม่เคยเห็นกลายเป็นข้อขัดแย้งในแง้ที่ว่าความคิดของตัวฉลาดกว่าคนอื่นทุกอย่างคือการคาดเดา สิ่งที่มีตัวตนอาจไม่มีตัวตนเลยก็ได้แค่สัมผัสแค่รู้สึกก็คิดได้ว่ามีตัวตนเด็กมันก็เห็นได้ถ้าแบบนี้เรียนจบระดับไหนก็กินอาหารสามมื้อเหมือนกันโลกนี้จึงสร้างขะยะมาถมแหล่งอาหารไปขุดดูก็เจอสิ่งเก่าๆมันก็เป็นอย่างนั้นทุกๆอย่างก็เป็นของมันอย่างนั้น
โลกไม่ได้ร้อนมาก่อนแล้วถึงได้เย็นตัวแต่โลกมันมีใจกลางที่ร้อนตั้งแต่อดีดปัจจุบันและอนาคตเหตุที่มีแร่สารพัดที่จากหลอมละลายด้วยความร้อนแล้วเย็นตัวก็เพราะภูเขาไฟที่เป็นตัวสำคัญในการเปลี่ยนเปลือกโลกต่างหากในความคิดผมนะ
แต่ theory นี้ก็อธิบายไม่ได้นะว่า จากสสารเหล่านั้นรวมกันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึกนึกคิดได้อย่างไร ทำไมสสลารโบราณเหล่านั้นถึง organize กันได้อย่างดี แล้งอะไรที่ใช่ในการควมควบสสารเหล่านั้นแบบที่มนุษย์และสัตว์ควบคุมร่างกาย ถ้าเซลล์ทุกเซลล์คือสิ่งมีชีวิต อะไรทำให้เรานั้นยอมให้เราควมคุมมัน
เพราะความลงตัวของสิ่งๆนั้นจึงทำให้เกิดการมีตัวตน และแน่นอน ทุกอย่างก็เกิดความลงตัวของมัน หากมีคนสร้างเรา แล้วใครสร้างคนสร้างของเรา แล้วผู้ที่สร้างเราจะคิดมั้ยว่าใครสร้างพวกเค้า สุดท้ายก็ต้องยอมรับว่าจุดเริ่มต้นนั้นไม่ใด้มีใครสร้าง หากมี แล้วใครสร้างผู้สร้าลทุกอย่าง นั่นไง! ธรรมชาติล้วนๆ แหม ธรรมชาตินี่ก็สุดยอดจริงๆ สุดท้ายนี้ เพราะไม่มีใครสร้าง เวลา จึกไมาอาจพูดใด้ว่ามีคนสร้างการมีตัสตนใด้ ..เข้าใจบ่ ถถถ
มีความเป็นไปได้หรือปล่าวที่ว่าทุกคนบนโลกนี้มีผู้ไห้กำเนิดคนคนเดียวกันและซึ่งอาจมีความที่ว่าเราทุกคนบนโลกใบนี้มีบุคคนรึกลับที่ไห้ชีวิตต่อๆกันมาและแตกแยกกันออกไปและค่อยๆขยายออกไปเรื่อยๆ
” มีเหตุ ต้องมีผล ”
ทษฤฏี อ.พูดมาถูกต้องทุกอย่างเลยครับ เพราะนักวิทยาศาสคตร์ ทั่วโลก ก็พูดไปในเสียงเดียวกัน และเห็นตรงกัน และพิสูตรได้และมีหลักฐาน
ท่านจะเอา เรื่อง พระเจ้า มาพิสูตร แบบนี้ได้มั้ย ไม่ได้ใช่มั้ยล่ะครับ ท่านเคยเห็น พระเจ้าสร้างโลกมั้ยล่ะ
คนที่ไม่เชื่อ ผมขอให้ท่านลองไปศึกษาอีกนะ เรื่องของจักวาล และดาราศาสตร์ มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจ และไม่ได้งมงายเลย
“ขอพูดถึงความคิดเห็นที่บอกว่า ให้เอาระเบิดโยนไปบนทราย แล้วให้เกิดโลกไม่ได้ นั้นคุณลองนึกภาพดู มันใหญ่กว่ากันขนากไหน เหมือนกับ
เอาคุณไปเทียบกับจักรวาล คุณคงเล็กมากจนคงตรวจจับไม่ได้เลย” ถ้าเทียบแล้วก็ประมาณ 1 ส่วน 10 กำลัีง 10 ล้าน ล้าน ของเม็ดทรายบนโลกนี้ ตัวคุณยังใหญ่ไม่เท่าเม็ดทรายเม็ด1ของทรายบนโลกนี้เลย”
จากตัวอย่าง วิดีโอข้างบน เป็นแค่ 1 ทษฤฎี เป็นตัวอย่างที่เอามาให้คนโง่ดูเข้าใจง่ายๆ ดูแล้วไม่เข้าใจก็บอกมันไร้สาระ งมงาย
ผมขอขอบคุณ วิดีโอนี้นะ ครับ อย่างน้อยก็ได้ความรู้เพิ่มขึ้น และมีประโยชน์ต่อสังคมครับ
สสารที่รวมตัวกัน ก่อนที่จะเกิด บิกแบง นั้นมาจากไหนครับ อยู่ๆจะให้มีสสารเกิดขึ้นเลยก็เป็นไปไม่ได้ แล้วอนุภาคต่างๆ สสารต่างๆนั้น ต้นเกิดเนิดจริงๆของมันมาจากไหน ต้นกำเนิดจักวาลที่ว่างเปล่าไม่มีที่สิ้นสุดนั้นมาจากไหนอีก แล้วถ้าคนเราตายไปแล้วจะว่างเปล่าไม่มีเราเกิดขึ้นใหม่อีกไม่ว่าโลกจะแตกก็จะไม่มีเราเกิดขึ้นอีกต่อไป หรือ ถ้าโชคดีเราตายไปแล้วจิตใจเรา(หรืออะไรก็แล้วแต่)จะแยกออกจากร่างกายไปอยู่ในอีกมิติอื่นรอการเกิดใหม่ รึเปล่า หรือจะมีสิ่งมีชีวิตบางอย่าง หรือไม่มีชีวิต หรือ พลังบางอย่าง หรืออะไรก็แล้วแต่ จู่ๆก็กำเนิดขึ้นมา ในที่ที่มืดมิดว่างเปล่า แล้วสิ่งมีชีวิตนั้นคงจะรู้สึกอ้างว้าง จนเริ่มสร้าง สสาร มวล ขึ้นมา (เขาสร้างยังไงก็ไม่รู้ อาจจะเสกขึ้นมา หรือใช้พลังงานในตัว หรือยังไงก็แล้วแต่) จนอาจจะเป็นจุดกำเนิดของมวลสารก่อนจะเกิด บิกแบงก็เป็นได้ หลุมดำ หรือรูหนอน เขาก็อาจจะสร้าง เพื่อที่จะลดระยะเวลาในการเดินทางเป็นเส้นทางในการเดินทางได้เร็วขึ้น เพื่อที่จะสร้างดวงดาวดวงใหม่ๆอีกมากมาย อาจจะมีสิ่งมีวิชิตหลากหลายรูปแบบที่กำเนิดขึ้น ในดวงดาวอื่นๆ อันไกลมากๆ ที่เขาได้สร้างขึ้น และเขาอาจจะมองเราอยู่ที่ไหนซักแห่งก็ได้ หรือเขาอาจจะ เดินหน้าสร้างดวงดาวใหม่ๆ อยู่อีกมากมายก็เป็นได้ ถ้าเป็นแบบนั้นซักวันนึง เขาอาจจะมาเยือนโลกของเราก็เป็นได้ หรือไม่ตัวเรา เซลสิ่งมีชีวิตต่างๆ อาจจะมาจากพลังจากตัวเขาก็ได้ พอเราตายไปแล้ว อาจจะย้อนกลับไปรวมกับตัวเขาก็ได้ เพื่อที่มวลในตัวเขาจะได้ไม่ลดลงไปเรื่อยๆ แล้วพอเป็นแบบนั้นเขาก็ค่อยหาดาวดวงใหม่ที่เหมาะสมเพื่อส่งพลังในตัวเขาให้พวกเราได้กำเนิดขึ้นอีกครั้งก็เป็นได้ หรือเขาอาจจะมาเยือนโลกแล้วจนอาจจะมีบางคนเคยเห็นเขา เลยเรียกเขาว่า พระเจ้า หรือผู้สร้างก็เป็นได้ (ทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆครับ)
ต้นไม้ใหญ่ล้มลงกลางป่าเขา ทิ้งไว้ร้อยปี หรือ พันปี ก็ไม่มีทางเกิดขึ้นมาเป็นเฟอร์นิเจอร์อันสวยงามได้ ดังนั้นทุกอย่างล้วนมีต้นกำเนิดเกิดมาได้ต้องมีการสร้าง ดั่งเราจะเห็นในทุกวันนี้ เผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นถือกำเนิดมาเพียงไม่กี่แสนปี และบันทึกประวัติศาสตร์ไว้แค่ 4,000 ปีเท่านั้น มนุษย์ได้เปลี่ยนตัวเองมาเป็นผู้สร้างแล้ว เช่นทำการโคลนนิ่งสัตว์ ตัดต่อพันธุ์กรรมของพืช มนุษย์ทำเด็กหลอดแก้ว มนุษย์ทำกิ๊ฟผสมเทียมให้กับเผ่าพันธุ์ตนเอง มนุษย์สามรถเลือกเพศให้กับเด็กที่จะเกิดขึ้นมาได้ มนุษย์สามารถทำให้สัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วกับมามีชีวิตอีกได้ หากได้ DNA ของสิ่งนั้นที่สมบูรณ์ นี่เค้าเรียกว่ากระบวนการสร้าง มันไม่ได้เกิดจากการวิวัฒนาการแต่อย่างใด ลองคิดต่อดูว่าหากอีก 25,000 – 550,000 ปีและเผ่าพันธุ์มนุษย์นี้ยังไม่สูญพันธุ์ เผ่าพันธุ์มนุษย์อาจจะกลายเป็นดั่งพระเจ้าผู้สร้างสิ่งอื่นๆขึ้นมา และกำหนดชีวิตของสิ่งนั้นๆ เหมือนพระเจ้าที่เรามักพูดถึงก็ได้.
มีจุดเริ่ม ย่อมมีจุดจบ ไม่แปลกหรอกที่มนุษย์คิดได้ถึงทุกวันนี้ เพราะทุกอย่างมันคือบดทดสอบ แล้วอัลเลาะได้ให้สมองมนุษย์มาคิด ส่วนจะคิดอะไรนั้นก็อีกเรื่องนึง (อัลเลาะผู้ทรงเมตตาปราณีเสมอ)
มนุษย์ก็คือมนุษอยู่วันยังค่ำแหละครับ ไม่ว่าจะไปไกลแค่ไหน ก็อยู่ในสิ่งที่พระเจ้าล้วนสร้างมาทั้งนั้นจนถึงจุดจบ ซึ่งไม่ว่าใครจะยิ่งไหญ่ขนาดไหน จะเก่งแค่ไหน ก็ไม่เห็นจะมีใครหนีพ้นความตายได้เลยสักคน ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีผู้สร้าง แล้วสาบานได้เลยว่าไม่ไช่ธรรมชาติแน่นอน (อัลลอฮ์ฮุอัคบัร)
(อัลลอฮ์ฮุอัคบัร) (อัลลอฮ์ฮุอัคบัร)
แล้ว… แรงดึงดูดเกิดจากอะไรเหรอครับ ก็เกิดจากแรงโน้มถ่วง แล้วแรงโน้มถ่วงเกิดจากอะไร ฟังๆแล้วมันค่อนข้างจะพูดไปเชิงเรื่องบังเอิญเกิดขึ้นเยอะมากเลย สรุปว่าโลกและจักรวาลเราเกิดขึ้น โดยส่วนประกอบเล็กๆต่างๆบังเอิญมาชนกันเลยเกิดเป็นสะสารต่างๆ — –” ผมว่าแค่ถาม นิวตรอน โปรตรอน อิเล็กตรอน มันมาจากไหนก้เป็นคำถามที่ยากมากแล้วมั้งเนี่ย แต่อย่างน้อยก็ยังดีกว่าไม่รู้อะไรเลยอ่ะนะ แต่อันนี้ความคิดส่วนผมนะครับ ผมว่านี่เป็นวิธีกำเนิดของจักรวาล มากกว่ากำเนิดของจักรวาลนะ
1อะตอม เหมือนจักรวาลของเรา 1จักรวาลของเราอาจเป็นเพียงแค่ 1อะตอมของสิ่งที่ใหญ่กว่า มนุษย์ก็รับรู้ได้เพียงเท่้านี้เราต้องยอมรับตัวเอง จะไปคิดไรให้มากมาย ใช้ชีวิตที่เหลือให้มีความสุข
ธรรมชาติสร้างโลกมา
แล้วอะไรละสร้างธรรมชาติ อะตอมเกิดจากอะไรละ!โลกที่มีขนาดแปะ ระบบสุริยะที่แปะ24ชัวโมงแปะ อากาศกำลังพอดีแปะ มีเพียงฎษฎีเดียวเท่านันและคับ. อิๆ
1)ทฤษฎ๊บิกแบงเกิดปีคศ 1920 ขณะนั้นกล้องโทรทัศน์ฒ๊ศฒรรถนะต่ำมากๆๆ จากทฤษฎีนี้คำนวณอายุเอกภพบิกแบงได้แค่ 13,700ล้านปี 2)เมื่อกล้องโทรทัศน์มีสมรรถนะสูงขึ้นมากๆๆได้พบหลุมดำเต็มไปหมด มีในใจกลางของทุกกาแลกซี่ จากการศึกษาอย่างรอบคอบพบว่าหลุมดำมีอายุในระดับ 10^64ปี=10000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000ปี 3)หลุมดำมีอายุมากก่วาบิกแบงหลาย ล้านๆๆๆเท่า หลุมดำเกิดก่อนเอกภพบิกแบงเป็นไปได้อย่างไร 4)ที่เป็นจริงคือทฤษฎีบิกแบงผิดครับ
Big Bang เป็นข้อสันนิฐานไม่ใช่ความจริงทางวิทยาศาตร์ พระเจ้าสร้างโลกและจักรวาล ทุกมวลสารวัถตุทางกายภาพ มีผู้สร้างแน่นนอน โลกนี้ไม่ได้เกิดโดยความบังเอิน ดูจากความมีระบบระเบียบในธรรม
ผมไม่คิดว่าผู้สร้างมีจริง เพราะผมลองจิตนาการว่าสามารถสร้างสิ่งมีชิวิตหนึ่งได้ ก็ไม่สามารถสร้างลายละเอียดได้ทั้งหมด เช่นถ้าผมสร้างกิ่งก่า ก็ต้องสร้างรายละเอียดต่าง หายใจยังไง กินยังไง นอนยังไง ผสมพันยังไง และอีกมากมาย แค่จะสรา้งกิงก่าแค่สายพันเดียวให้สมบูรณ์ ก็ไม่รู้ใช้เวลาเท่าไรแล้ว สร้างโลกในไม่กี่วันเนี้ยนะ ให้เอาคนทั้งโลกมาช้วยกันสร้างก็ได้รายละเอียดไม่หมดหรอกครับ
กำเนิดของโลก สิ่งมีชวิต รวมถึงมนุษย์อ่านในคัมภีร์ ไบเบิลครับ พระเจ้าเป็นผู้สร้าง ทุกสิ่งจึงเกิดขึ้น มีผู้ควบคุมระบบบของมันอยู่
ฟังดูแล้วฮะ อ. องค์ความรู้นี้ โยนหิน กระจัดกระจาย ไปเรื่อยๆ ( โลกยุคแรกเริ่ม มี เซลล์ยุคโบราณสมบูรณ์แบบ ซับซ้อนด้วยหรา (งี้ ไดโนเสาร์ คงทอผ้าพันคอใส่ในช่วง Adaptations – Adoptions (ฺPost Evolution !?) วิทยาศาสตร์ กับยุคโยนก้อนหินไปเรื่อย ๆ !@#$%(สิ่งมีชีวิตทั้งมวลรวม ผม และอาจารย์ ด้วยนิ !?)
เอางี้ อ.ลองเอากระบวนการนี้ทำให้สิ่งไม่มีชีวิต มาเป็นสิ่งมีชีวิตให้ดูหน่อยครับ อ.ไม่เห็นหรือธรรมชาติ โลกเรามันสมดุลและสมบูณแบบขนาดไหน ทฤษฎีนี้แค่มีความน่าจะเป็นแต่ก็ยืนยันอะไรไม่ได้เลย ลม น้ำ อากาศ ดวงอาทิดต์ พระอาทิดตย์ มันจะเป็นไปได้หรือครับ ผมว่าแนวคิดนี้งมงายมากกว่า แนวคิดพระเจ้าสร้างโลกอีก สิ่งไม่มีชีวิตเกิด อยู่ดีดีมีชีวิตขึ้นมาได้ ตลกมากครับ แล้วไหนไอสัตว์เซลล์เดียวกลายเป็นสัตว์ นาๆชนิด แล้วเกิดห่วงโซ่ อาหารที่สมบูณแบบอีก ผมว่า แนวคิดแบบนี้ โคตรงมงายเลย วิทยาศาสตร์เชื่ออะไรแบบนี้หรอครับ ไหนว่าเชือสิ่งที่พิสูจย์ได้ เด๋วก็มาอ้างว่ามันต้องใช้เวลานานอีก แบบนี้เค้าเรียกงมงายอ่ะครับ
เห็นถกเถียงกันเอาง่ายพระพุทธเจ้าท่านเคยบอกว่าทุกสิ่งทุกอย่างบนจักรวาลนี้ล้วนมีเหตุผลของมัน หมายความว่าพระพุทธเจ้าก็เชื่อในวิทยาศาสตร์ไม่ได้เชื่อไสยศาสตร์
เหนมีหลายๆคนบอกวิทยาศาสตร์ไม่ใช่ทุกสิ่ง เพราะคุณไม่เข้าใจคำว่าวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ คือทุกสิ่งครับ คือสิ่งที่มีอยู่มาตลอดตั้งแต่หลายล้านปี เพื่อรอให้ใครหรืออะไรไปพบแล้วเข้าใจ ถึงเรียกว่าวิทยาศาสตร์ ส่วนสิ่งที่เราไม่เข้าใจหรืออธิบายไม่ได้ มันก็คือวิทยาศาสตร์ เพียงแต่เราไม่เข้าใจเลยเรียกว่าไสยศาส เช่นเมื่อก่อนสายฟ้า คนเราไม่เข้าใจ ก็คิดว่าเป็นพระเจ้า มันคือสิ่งที่มีอยู่แล้วเหลือแค่รอให้คนที่เข้าใจมันมาพบแล้วพิสูจน์ ให้ได้แค่นั้นเอง
ไม่มีผู้สร้างหรอกทีสิ่งมีชีวิตเกิดเพราะโลกของเรามีองประกอบให้เกิดสิ่งมีชีวิต และเกิดวิวัฒนาการ
ทำไมเวลาเราเสียใจถึงต้องร้องไห้? ทำไมคนเราต้องมีความรัก? ทำไมคนเราต้องมีความรู้สึก? ทำไมระบบร่างกายของมนุษย์ถูกเรียบเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ? เป็นไปไม่ได้ครับที่มันจะเกิดขึ้นมาเองโดยที่ไม่มีผู้จัดสรรค์มันขึ้นมา
นักวิทยาศาสตร์ทุกคนรุ้ดีว่าทุกอย่างไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอินรึก่อตัวขึ้นเองแต่มีผู้ควบคุมมันอยุ่อย่างมีระบบระเบียบ
วิทยาศาสย์ไม่ใช่ทุกอย่างจะใช่ ในเมื่อ สร้างชิวิตขึ้นมาเอง ตาม ธรรมชาติ สะสาร ต่างแล้ว แลั้วทำไม ต้อง มีการสืบพันธ์เพื่อ เพือการ ขยายพันธ์ไม่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ตามสะสารก่อเริ่มแต่ต้นล่ะครับ มันต้องมีอะไรนอกเหนือกว่านั้น
ผมจำได้ว่าต้องมี 5 สิ่ง มารวมกัน จำได้ว่า มี สายฟ้า อย่างหนึ่ง แล้วรวมเป็นกรดอะมิโน มั้งครับ จำไม่ค่อยได้ เมื่อครบทั้ง 5 แล้ว จึงเกิดสิ่งมีชีวิตขึ้น ที่เป็นเซลล์ แล้วสร้างอันดับแรกเป็นสัตว์น้ำก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนมาเป็น สัตว์เลื้อยคานประเภทจระเข้ แล้วค่อยมาเป็นสัตว์ปีก แล้วก็สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ แล้วค่อย สัตว์บก ซึ่งเรื่องนี้ผมไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไร แต่ได้ยินมา อาจจะไม่เป็นที่ผมกล่าวไว้ก็ได้
ขนาดวิทยาศาสตร์สามารถอธิบายให้เห็นภาพได้และอาจจะจริง บางพวกที่ยังอ้างนู่นนี่นั่นที่จะไม่เชื่อ แต่ปัญหาคือ.. ไม่เชื่อนักวิทย์แต่เสือกเชื่อเรื่องพระเจ้า ^^! แค่คัมภีร์โง่ๆที่ถูกบันทึกจากใครคนหนึ่ง แถมจับต้องอ้างอิงอธิบายอะไรไม่ได้อีกต่างหาก แต่พวกคุณกลับเชื่อโดยไม่ใช้สมองคิดเลยว่ามันน่าจะจริงหรือแค่หลอก
สิ่งมีชีวิต เกิดจากการที่ผมนั่ง ไทม์แมชชีน ย้อนกลับไปสมัยที่โลกยังไม่มีสิ่งมีชีวิต แล้วเอา หมู เห็ด เป็ด ไก่ ไปปล่อย แล้วมันก็วิวัฒนาการจนมาเป็นพวกเราในปัจจุบัน สรุป ผมนี่แหละต้นกำเนิดสิ่งมีชีวิต
ไปละหมอเรียกกินยา
เกิดจากฝนตกแล้วเกิดตะไคล้น้ำตะไคล้นำ้คือจุดกำเหนิดของทุกสิ่งมนุษย์บนดินคือบนดินไม่ได้เกิดมาจากสัตว์น้ำเพราะลิงอาจพัฒนามาจากพืชบางชนิด และมนุษย์คือมนุษย์ไม่ใช้ลิง เพียงแต่เมื่อก่อนเรามีข่นลิงแค่เป็นพี่น้องที่ไกลเคียงกับเราเท่านันแต่มันพัฒนาไม่เท่าเรามันเลยยังคงเป็นลิงอยู่ อาการเจ็บเพื่อให้เรารู้จักป้องกันตนเอง ความรักชอบคนหล่อคนสวยเพราะดีเอ็นเอเราต้องการพัฒนาตนเองคับ เพราะคนที่ดูดีย่อมสมบูรณ์กว่ารุ่นต่อไปย่อมพัฒนาได้ดีกว่า …มันเป็นทฎษดีนะคับของผมเอง
อย่าไปเชื่อนักวิทย์ฯมโนมาก หลักฐานยังหาไม่ได้เลย มาสรุปว่ามนุษย์วิวัฒนาการมาจากลิง ถ้าเอาตามนักวิทย์มโน DNAมนุษย์เหมือนกับDNAผักกะหล่ำปลีถึง50% กรูก็สรุปได้ว่ามนุษย์วิวัฒนาการมาจากหัวกะหล่ำปลีเหมือนกัน ความจริงแล้วมนุษย์ อยู่มาก่อนไดโนเสาร์อีกนะ
ขนาดวิทยาศาสตร์พิสูจน์ให้เห็นภาพ
ขนาดนี้คุณยังเชื่อกันว่าพระเจ้าสร้าง
อีกหรอเอิ่มงงคน
รู้แต่ไม่รับความจริงจงเชื่อในสิ่งที่พิสูจน์ได้อย่างมงายในสิ่งที่ไม่มีแม้แต่ตัวตนไม่มีแม้แต่การรู้สึก
ลมถึงมองไม่เห็นแต่ก็ยังรู้สึกว่ามีลม
ถ้ามีพระเจ้าแล้วใครสร้างพระเจ้า
ถ้าพระเจ้าเกิดขึ้นเองสิ่งมีชีวิตย่อมเกิดขึ้นเองเช่นกัน
วิทยาศาสตร์ในปัจจุบันนี้เริ่มเข้าใกล้ความจริงเป็นของธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ผมคิดว่า ในอนาคตเราคงจะเข้าใจถึงกฎธรรมชาติมากขึ้นในทุกๆเรื่อง อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ กล่าวไว้ว่า สิ่งสำคัญอย่างยิ่งก็คือ อย่าได้หยุดตั้งคำถาม ความกระหายใฝ่เรียนรู้นั้นมีเหตุผลในตัวมันเองที่จะต้องดำรงอยู่ ช่วยไม่ได้เลยที่เราจะรู้สึกครั่นคร้ามเมื่อได้ครุ่นคิดถึงความลึกลับแห่งนิจนิรันดร์ ชีวิต และลักษณะอันน่าพิศวงของสัจจะ แค่เพียงได้คิดคำนึงถึงความลึกลับเหล่านี้วันนิดก็เพียงพอแล้ว จงอย่าได้สูญเสียความกระหายใฝ่รู้อันศักดิ์สิทธิ์นี้
ถ้าพระเจ้ากำหนดทุกอย่างถึงขนาดมีความสามารถขนาดนั้น เขาคงอุทานว่า กูจะสร้างโลกทั้งทีกูต้องนั่งรอพวกมึงเป็นรูปเป็นร่าง(วิวัฒนาการ)เป็นล้านล้านปีหรอ พวกโงวนับถือกูได้แต่มีสมองหน่อยพระองค์คงคิด
ถ้าแค่หยากรู้คำตอบต้องสึกษาโครงกระดูกร้นแรกของมุษและนำดีเอ็นเอของรุ้นแรกมาว่ามีสารอะไรเกียวกับธรรมชาติที่ก่อตัวเป็นสิ่งมีชีวิตและการผสมพันของมนุษร้างกายมนุษกลั่นกรองมาเป็นน้ำอสุจิ..มีอีกหลายหย่างหย่าห่เลย..คิดเครืองผสมน้ำอสุจิตัวผู้ตัวเมียผสมกันและทำมดลูกเทียมดีกว่าหรือหาวิที่สร้างสิ่งมีชีวิตก็คือไตตับปอดอวัยวะจากสิ่งมีชีวิตดีกว่าเครืองที่สามาดผลิตตับมนุษขึ้นใหม่ได้หรือปอดมนุษใหม่ได้และมีห้องแลบเลียงดูอวัยวะเอาไว้ช้วยต่ออายุให้มนุษเพิมมีอายุ200ปีดีกว่านะ..เช่นเอาน้ำอาสุจิของมนุษมาและคิดค้นสร้างอวัยจิงให้ได้ชิ้นสวนให้มนุษดีกว่านะเมือสามาดสร้างได้เป็นชิ้นส่วนเช่นตับมีเนื้อเยื้ออะไรบ้าง…และเราจะใช้วัตรถุสารชนิดใดทำให้มันเป็นตับจิงขึ้นมา..และเลียงดูไว้เปลียนให้มนุษ..หรือเนื้อเยื้อมนุษมีเซิลอะไรบ้างและจะสร้างเนื้อเยื้อขึ้นมาใหม่ได้หย่างไรผมกำลังสึกษาตนไม้..วิทีของต้นไม้มันสร้างเนื้อเยื้อแตกกิ่งได้ไงเมือโคนแล้วมันมีชีวิตขึ้นใหม่ได้และโตได้และมีชีวิตเหมือเดิมได้ไง
สิ่งที่นำมาสร้างสิ่งที่มีชีวิตคือ 1 แร่ธาตุ กระแสไฟฟ้า ความร้อน หรืออะไรอีกหลาย ๆ อย่าง แต่ที่ขาดไม่ใด้เลยคือความรู้ในการสร้างครับ สิ่งนี้สำคัญที่สุดครับ เรากำลังค้นหาสิ่งนี้อยู่ครับ จะว่าพระเจ้า หรือธรรมชาติก็ต้องอาศัยองความรู้เพื่อสร้างสิ่งใดสิ่งหนึ่งเสมอครับ ทุก ๆสิ่งมีวิธีการเกิดขึ้นของตัวมันเองครับ องประกอบในสิ่งที่เราจะเข้าไปรู้ในสิ่งนี้ยังไม่สมบูรณ์ครับ คงอีกไมนานครับเราก็จะรู้ตั่งแต่ต้นจนจบครับ เหมือนกันแหละครับที่เรารู้ว่าโลกกลม เราเกิดมาในยุครวบรวมข้อมูลและความรู้ในเอกภบนี้ครับ อีกไมนานครับความรู้ที่มีอยูในจักวาลก็จะถูกรวบรวมใว้ในเผ่าพันของเราครับ และคนในยุกตอ่ไปก็จะไม่ต้องมาเทลาะกันอีกเหมือนกับยุกนี้ครับ เพราะไม่รู้ความเป็นจริงของทุกสิ่งในจักวาลนี้ครับเราถึงเป็นแบบนี้ นี่ละครับเหตุผล
ต้นไม้เกิดและเติบโตได้ด้วย ดิน
และการสังเคราะห์ด้วยแสง
แล้วชีวิตของสัตว์เล่า?
เกิดและเติบโตจากอะไร
ผมคิดว่า สิ่งมีชีวิตเกิดมาจากอุกกาบาต ดิน หิน ที่มีเซลล์สิ่งมีชีวิต ตกลงและรวมตัวเป็นโลก สภาพแวดล้อมต่างๆบนโลกทำให้เซลล์สิ่งมีชีวิต เติบโต และวิวัฒนาการ มนุษย์เราเป็นสิ่งมีชวิตที่ฉลาดที่สุดบนโลก และผมคิดว่าดาวดวงอื่นๆนอกโลก อาจจะมีสิ่งมีชีวิต ถ้ามีสภาพแวดล้อมสามารถที่จะเติบโต และวิวัฒนาการได้ แต่คงยากที่จะค้นพบ เพราะจักรวาลกว้างใหญ่ และระยะทางยาวไกล คงอีกนานนนนน????
เขาทำมาเพื่อเราดู จะมาทะเลาะกันทำไมคะ ศาสนาก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ทุกคนเลือกที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองพึงพอใจถูกมั้ยคะ ถ้าไม่มีนักวิทยาศาสตร์เราจะรู้เหรอว่าโลกมีหน้าตาอย่างไร จักรวาลมีหน้าตาอย่างไร เราควรจะให้กำลังใจพวกเขานะ เขาได้พิสูจน์หลายสิ่งที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ เขากลับทำได้หลายอย่างแล้ว ด่าคนอื่นไม่มีประโยชน์จะทำให้ตัวเองทุกข์ใจเปล่า
.. ถ้าพูดถึงสสาร สิ่งมีชีวิต หรือไม่มีชีวิต ก็คือสสาร
แต่สิ่งมีชีวิตมีอารมณ์ มีความรู้สึก มีเส้นประสาท ตัดสินใจ นึกคิดได้. งั้นก็ต้องมีสิ่งเหนือความรู้สึกนึกคิดนั้น อาจเป็นอำนาจ พลังงาน หรือที่ว่าจิตวิณญาน (เชื่อม้้ยพืชก็ตัดสินใจเป็น)
สิ่งมีชีวิตมีวิวัฒนาการ ปรับเปลี่ยนตนเองให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมที่อยู่ได้
แสงเป็นต้นกำเนิดของชีวิต ชีวิตต้องการอากาศ หรือออกซิเจน กำเนิดมาจากแสง ไปเป็นธรรมชาติ และสิ่งมีชีวิตก็ตามมา ลักษะสิ่งมีชีวิตก็เป็นไปตามที่นั้นๆมีการพัฒนาการไปตามท้องที่เช่น ขนาด และเคลือนไหวได้ หรือ ขยายแบบห่วงโซ หรือ กลายพันธ์
มา ตีระวัง มาจากอตมมาจากความร้อนมาจากความเย็นมาจากเเสงและปัจจัยหลายๆอย่าง ผักทำไมถึงเกอดใด้ก็เพราะฝนนํ้าและเเสงคือสิ่งก่อกำเนิดและถ้าโลกเราไม่มีเเสงไม่มีนํ้า มนุษย์ก็คงไม่เกิด และถ้ากาเเลกซี่ไม่มีการระเบิดการเเม้กม่า ก็ไม่เกิดดาว ที่สร้างการไม่มีที่สิ้นสุดในจักวารของเรา จบ
ใครสร้างมนุษย์นั้นไม่สำคัญ ที่สำคัญคือ มีวิธีหลุดพ้นออกจากอำนาจแห่งผู้สร้างได้อย่างสิ้นเชิงแล้ว หลุดพ้นจากอำนาจแห่งกิเลสที่ฉุดรั้งเราให้ตกอยู่ใต้อำนาจของมันมานาน จนชีวิตเต็มไปด้วยความทุกข์ เมื่อชีวิตถูกสร้างขึ้นมา ย่อมลากเอาความทุกข์นานัปการพ่วงมาด้วย (ผลนั้นเกิดจากเหตุ เมื่อดับเหตุได้ ผลย่อมไม่มี)
มนุษย์ไม่ได้เกิดมาจากลิง เพราะถ้ามนุษย์วิวิตถนาการมากจากลิงจิงๆ ก็ต้องเกิดเป็นลิงก่อน พอออกจากท้องแล้วก็ต้องเป็นลิงก่อนแล้วค่อยๆวิวัตถนาการเป็นมนุษย์ เคยมีคนบอกมนุษย์คนแรกของโลกชื่อ อดัม กับ อีสใช่มะ งั้นมนุษย์คนแรกของโลกคือยังไง ลิงวิวัตถนาการเป็นมนุษย์เลยเรียกว่ามนุษย์คนแรกของโลก หรือมนุษย์เกิดมาเป็นมนุษย์ตั้งแต่แรก เล่าแล้วมันจะยาว แค่นี้จบ
อาจจะเกิดมาจากแบตทีเรียมั้งแต่ตอนนั้นเราอาจจะไม่ใช่มนุษย์อาจจะเป็นสัตว์เดินได้จำพวกลิงอะไรประมาณนี้และก็มาวิวัตทนาการณ์ที่หลัง เพราะไดโนเสาร์ก็เกิดมาจากพวกแบตทีเรียที่มารวมตัวกันเลย แต่มันก็เป็นคำถามที่หาคำตอบไม่ได้อยู่ดีในอนาคตอาจจะมีคำตอบ?