จิ๋นซีฮ่องเต้ จักรพรรดิผู้เป็นมหาราชและทรราชในคนเดียวกัน

จิ๋นซีฮ่องเต้” หรือ “ฉินสื่อหวงตี้” มีข้อมูลระบุว่าเดิมท่านชื่อ “อิ๋งเจิ้ง” (แซ่-อิ๋ง, ชื่อ เจิ้ง) ชาติกำเนิดของอิ๋งเจิ้งมีที่มาไม่แน่ชัด บางข้อมูลบอกว่าท่านอาจเป็นบุตรของ “จื่ออี้” (อี้เหริน) ชาวแคว้นฉินซึ่งถูกจับมาเป็นตัวประกันที่แคว้นจ้าว ขณะที่ข้อมูลส่วนใหญ่ระบุว่า อิ๋งเจิ้ง เป็นบุตรชายของพ่อค้าคนหนึ่งที่ต่อมาเติบโตเป็นเสนาบดีคนสำคัญของแคว้นฉิน ชื่อ “หลี่ปู้เหว่ย” กับมารดาที่เป็นนางสนมชื่อ “เจ้าจี

อิ๋งเจิ้งถือกำเนิดขึ้นในราวปี พ.ศ. 283 หรือ 260 ปีก่อนคริสตกาล ในปลายยุคจ้านกว๋อ หรือยุคสงคราม (ยุคที่ 2 ของสมัยราชวงศ์โจวตะวันออก) ยุคนี้ประเทศจีนยังไม่รวมเป็นหนึ่ง หากแต่แตกเป็นเสี่ยง ๆ จากการทำศึกสงครามยืดเยื้อกินเวลายาวนานกว่า 500 ปี

ประวัติ : จิ๋นซีฮ่องเต้ จักรพรรดิทรราช by CHERRYMAN
สารคดี ฉินซีฮ่องเต้
จิ๋นซีฮ่องเต้ จักรพรรดิที่โลกไม่ลืม
ตำนานจิ๋นซีฮ่องเต้ VZMART
เปิดตำนาน สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้
สุดยอดสารคดีเปิดโลกกว้าง จิ๋นซีฮ่องเต้ จอมจักรพรรดิแดนมังกร
บันทึกตำนาน : จิ๋นซีฮ่องเต้ สั่งประหารขันทีนับ 100 ในวันเดียว เพราะ ?
The Emperors Shadow ฉินซี เจ้าแผ่นดินมังกร
จิ่นซีฮ่องเต้ เป็นลูกพ่อค้า???
จิงเคอ มือสังหารจิ๋นซีฮ่องเต้ | Chinatalks เรื่องเล่าจีน

จิ๋นซีฮ่องเต้ ผู้เป็นจักรพรรดิองค์แรกของแผ่นดินจีน

แผ่นจีนในยุคนั้นแบ่งออกเป็น 7 รัฐใหญ่ๆ คือ หาน จ้าว เว้ย ฉู่ เยียน ฉี และ “รัฐฉิน” โดยรัฐฉินที่อยู่ฝั่งตะวันตกเป็นรัฐที่ทุรกันดาร และล้าหลังที่สุด

กระทั่งเมื่ออิ๋งเจิ้งใช้ความสามารถก้าวขึ้นมาครองบัลลังก์ตั้งแต่วัยเยาว์ (13-14 ปี) ท่านได้ปลดผู้สำเร็จราชการ (หลี่ปู้เหว่ย) ออกจากตำแหน่ง แล้วคุมอำนาจการปกครองแบบเบ็ดเสร็จทั้งหมดควบคู่ไปกับการพัฒนารัฐฉินที่เคยล้าหลังให้เป็นรัฐที่เจริญและเรืองอำนาจ


 

นอกจากนี้จิ๋นซีฮ่องเต้ยังได้เปิดรับคนดีมีความสามารถไม่จำกัดถิ่นกำเนิด มาช่วยปฏิรูปกฎหมาย การปกครอง และเศรษฐกิจจนแคว้นฉินรุ่งเรืองและมีอิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆ

จากนั้นอิ๋งเจิ๋งได้ใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ ทำลายความสามัคคีของรัฐที่ทรงอำนาจที่สุด 6 รัฐในสมัยนั้นลง แล้วผนวกรัฐต่าง ๆ ทีละรัฐเข้ากับรัฐฉิน

ภายในชั่วเวลาสิบปี คือ ตั้งแต่ปีที่ 231-221 ปีก่อนคริสตศักราช อิ๋งเจิ๋งสามารถรวมจีนให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ พร้อมๆกับสถาปนารัฐฉิน (ปีที่ 221 ถึงปีที่ 206 ก่อนคริสตศักราช ) ขึ้นโดย อิ๋งเจิ้ง ผู้เป็นกษัตริย์รัฐฉิน ได้เปลี่ยนพระนามพระองค์ว่า“ฉินสื่อหวงตี้” (จิ๋นซีฮ่องเต้) ที่นำคำว่า“หวง”ที่แปลว่า กษัตริย์ รวมเข้ากับคำว่า“ตี้”ที่แปลว่า จักรพรรดิ

เมื่อรวม 2 คำแล้ว แปลว่า“องค์ปฐมจักรพรรดิกษัตริย์แห่งราชวงศ์ฉิน” ทั้งนี้เพื่อจะให้สืบต่อราชบัลลังก์อยู่ในราชวงศ์ฉินติดต่อกันไปตลอด ไปถึงองค์ที่หมื่น ๆ แต่ว่าจริงๆ ราชวงศ์ฉินอยู่ได้เพียง 15 ปี แต่อย่างไรก็ดี คำว่า“หวงตี้” (ฮ่องเต้) ก็ได้เป็นคำที่กษัตริย์จีนใช้เรียกตัวเองตลอดมา 2,000 กว่าปี

ในรัชสมัยของพระองค์

แม่ทัพนายกองของพระองค์มีบทบาทอย่างยิ่งในการขยายแว่นแคว้น การรบกับเผ่าเยฺว่ทางใต้เมืองฉู่ทำให้ดินแดนไป่เยฺว่ของเมืองหูหนานและกวั่งตงตกเป็นของเมืองฉิน ส่วนการรบกับพวกซฺยงหนูในเอเชียตอนกลางส่งผลให้เมืองฉินได้ดินแดนเอ้อเอ่อร์ตัวซือของกลุ่มซฺยงหนู แม้ที่สุดแล้วจะเป็นเหตุให้มั่วตู๋ ฉันยฺหวี ผู้นำซฺยงหนู สามารถผนวกดินแดนได้บ้างก็ตาม พระองค์ยังได้อำมาตย์ราชเสวกหลายคน เช่น หลี่ ซือ เจ้าพระยามหาอุปราช มาช่วยปฏิรูปการปกครองและเศรษฐกิจเพื่อจัดระเบียบประเพณีอันหลากหลาย เป็นเหตุให้ทรงเผาตำรา ฝังบัณฑิต พระองค์ยังทรงรวมกำแพงเมือง ซึ่งกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปนั้นเข้าเป็นกำแพงเมืองจีน สร้างถนนหนทางระบบใหม่เป็นการใหญ่ และสร้างสุสานหลวงโดยมีรูปปั้นองครักษ์ขนาดเท่าคนจริงคอยพิทักษ์อยู่ ระหว่างที่เสด็จอยู่ในราชสมบัตินั้น พระองค์ทรงเสาะแสวงหาน้ำอมฤตมาตลอด แต่สุดท้ายก็สวรรคตเมื่อปีที่ 210 ก่อนคริสตกาล เพราะพระองค์ได้ทรงเสวยสารปรอทเพราะพระองค์เชื่อว่าเป็นยาอายุวัฒนะ

ในช่วงที่จิ๋นซีฮ่องเต้ปกครองแผ่นดินจีน ด้านหนึ่งพระองค์คือมหาราชที่ได้สร้างความเจริญให้กับแผ่นดินจีนมากมาย ไม่ว่าจะเป็น

การสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวขึ้นในประเทศ ด้วยการรวมศูนย์อำนาจการปกครองไว้กับพระองค์ แล้วแบ่งเขตการปกครองในประเทศออกเป็น 36 มณฑล

การกำหนดให้ใช้ตัวอักษรภาษาจีน เป็นอย่างเดียวกันหมดทั่วประเทศ แม้ว่าภาษาพูดจะผิดเพี้ยนกันแต่ว่าภาษาเขียนนั้นใช้เหมือนกัน

การกำหนดใช้กฎหมายอย่างเป็นเอกภาพทั่วประเทศ

การกำหนดให้ใช้เงินตราอย่างเดียวกัน

การกำหนดให้ใช้มาตราชั่ง ตวง วัดอย่างเดียวกัน

และที่โดดเด่นที่สุดก็คือการเชื่อมกำแพงเมืองตามแค้วนต่างเพื่อป้องกันการรุกรานของเผ่าซงหนู จนกลายเป็น “กำแพงเมืองจีน” 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก

1 1
Cr. fliggy.com

แต่อีกด้านหนึ่งพระองค์คือทรราชที่หลายคนยากจะลืมเลือนเช่นกัน เพราะว่าพระองค์กลับสร้างความยิ่งใหญ่บนความลำบากของไพร่ฟ้าประชาราษฎร์ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บภาษีอย่างโหดหินถึง 2 ใน 3

นอกจากนี้ยังเกณฑ์ประชาชนจำนวนมาก (รวมแล้วเป็นล้านคน) ไปเป็นทหารบ้าง ไปเป็นกรรมกรบ้าง เพื่อใช้สร้างพระราชวัง สร้างกำแพง สร้างสุสาน ทำให้ประชาชนต้องประสบกับความทุกข์ยากลำบาก

เท่านั้นยังไม่พอ กฎหมายในสมัยฉิน ยังได้กำหนดโทษไว้เฉียบขาดมาก หากผู้ใดกระทำผิดจะต้องถูกลงโทษทั้งครอบครัว

ประชาชนในสมัยฉินจึงอยู่กันด้วยความหวาดระแวง และเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า ด้วยเหตุนี้ทำให้พวกนักศึกษาสำนักขงจื๊อพากันไม่พอใจ พวกเขาจึงเลือกต่อสู้กับระบบการปกครองของจิ๋นซีฯด้วยการพูด และเขียนบทความ บทกวีถากถางเยาะเย้ยตำหนิติเตียนการปกครองสมัยนั้น ซึ่งก็สร้างความขุ่นเคืองพระทัยต่อจิ๋นซีฯเป็นอย่างยิ่ง พระองค์จึงมีคำสั่งให้เผาหนังสือต่าง ๆ เช่น ประวัติศาสตร์ บทรวมกวีนิพนธ์ บทร้อยแก้ว โดยเฉพาะหนังสือของสำนักขงจื๊อเสียให้หมดสิ้น

คงเหลือไว้ก็พวก ตำราทางการแพทย์ เกษตรกรรมและตำราอื่น ๆ

จากนั้นไม่นานจิ๋นซีฯก็ได้จับนักศึกษาสำนักขงจื๊อฝังทั้งเป็นเสีย 400 กว่าคน อันเป็นอาชญากรรมที่ถูกบันทึกลงในประวัติศาสตร์มาจนถึงทุกวันนี้

Terracottaover
สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ ที่เมืองซีอาน ประเทศจีน

อ้างอิง
“จิ๋นซีฮ่องเต้” จักรพรรดิโลกไม่ลืม ผู้เป็นมหาราชและทรราช ในร่างเดียวกัน


Copy link
Powered by Social Snap